บทที่ 4 ลอยทะเล(จบ)

ความโมโห ความเหนื่อย ความน้อยใจที่ถูกกักเก็บไว้เป็นเหมือนลาวาลูกใหญ่ เมื่อโดนท้ามาแบบนี้มีหรือที่คนอย่างอารดา       จะกลัว ต่อให้เธอไปกับเขาก็ใช่ว่าจะรอด คนเลวนี่คงหาวิธีกลั่นแกล้ง และทนมานเธอสารพัด ชั่ววูบของความคิด ความตายสำหรับเธอ         คงสวยงามกว่าการมีชีวิตอยู่

คิดได้ดังนั้นหญิงสาวก็เดินไปจนชิดกาบเรือ ก่อนจะหันหลัง    แล้วหลับตาลง ตัดสินใจทิ้งร่างลงทะเล นาทีนี้เธอไม่คิดอะไร เขาว่ากันว่าคนที่จมน้ำตายใช้เวลาไม่นาน แค่สามนาทีก็ตาย แล้วยิ่งตั้งใจตายอย่างเธอด้วยแล้ว มัจจุราชคงเห็นใจ สองแขนกางออก ก่อนจะยิ้มให้กับตัวเอง เมื่อความตายที่หอมหวานรออยู่ตรงหน้า

ตูม!!

เสียงของหนักตกลงกระทบผิวน้ำ ทำให้ร่างสูงที่กำลังเดินไปยังห้องพัก ชะงักเท้าที่กำลังก้าวเดิน หัวใจแกร่งกระตุกเมื่อหันกลับไปมอง แล้วเห็นแต่ความว่างเปล่า ไม่มีเงาของอารดาอยู่ตรงนั้น

“หยุดเรือเดี๋ยวนี้!!”

เสียงแหบพร่าคำรามลั่น และก่อนที่จะมีใครพูดอะไรร่างสูงก็กระโดดลงไปในน้ำอย่างรวดเร็ว อารดากระโดดน้ำเพื่อฆ่าตัวตาย ผู้หญิงคนนี้ใจเด็ดกว่าที่เขาคิด

“อารดา!” ธนากรตะโกนลั่น หลังจากโผล่พ้นผิวน้ำขึ้นมาหายใจ

“เจอหมายครับนายหัว!” ลุงพงษ์ คนงานประจำรีสอร์ตที่ทำหน้าที่ขับเรือตะโกนถาม

ร่างสูงดำลงไปอีกครั้ง และครั้งนี้เนิ่นนานจนคนที่รออยู่บนเรือ    ใจเสีย

“นายหัวครับ! เจอไหม!” ลุงพงษ์ร้องถามด้วยความห่วงใย

ไม่นานพื้นผิวน้ำก็แตกกระจาย ธนากรโผล่ขึ้นมาพร้อมร่างที่     นิ่งสนิทของหญิงสาว

“ทางนี้ครับนายหัว ส่งคุณผู้หญิงมาให้ผม”

ธนากรส่งร่างที่ไร้สติของหญิงสาวให้ลุงพงษ์ ก่อนจะรีบตามขึ้นมา

“ลุงไปเอาผ้ามาให้หน่อย” ร้องสั่งคนงาน ก่อนจะหันมามองใบหน้าที่ไร้สีเลือดด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย

“อารดา! อารดา... ได้ยินผมไหม คุณอย่าเป็นอะไรนะ ผมยัง      ไม่อนุญาตให้คุณตาย ได้ยินไหม!” มือแกร่งตบลงไปบนแก้มหญิงสาวเบา ๆ เพื่อเรียกให้เธอรู้สึกตัว

“อ้อม! อ้อม... ผมสั่งให้ตื่นได้ยินไหม!”

เมื่อคนหมดสติยังไม่ตอบสนอง ธนากรก็เริ่มใจเสีย มือแกร่ง     กดลงไปบนหน้าอกของหญิงสาวเป็นจังหวะ ก่อนจะเพิ่มน้ำหนักให้     แรงขึ้นและเร็วขึ้น

“อ้อม! ตื่นสิวะ!” ชายหนุ่มเริ่มคลุ้มคลั่ง เมื่ออารดายังนอนนิ่งไม่ได้สติ

“ผายปอดเลยครับนายหัว”

ลุงพงษ์ร้องบอก แล้ววิ่งเอาผ้าขาวม้ามาส่งให้ ชายหนุ่มใช้ผ้า    ห่อตัวหญิงสาว แล้วทำตามที่คนงานบอก ไม่นานคนที่นอนแน่นิ่งก็     ได้สติ ธนากรไม่รอช้า รีบช้อนร่างบางเข้าสู่วงแขนก่อนจะพาเข้าไปในห้องพัก

“อารดา... อารดา ได้ยินผมไหม”

ไม่มีเสียงตอบจากคนที่นอนตาค้างมองเพดาน มีเพียงน้ำตา        ที่ไหลลงมาเป็นสาย อารดายังคงนอนนิ่ง ไม่สนใจว่าเขาจะทำอะไรกับเธอบ้าง เธอน้อยใจกับโชคชะตา แค่ความตายมัจจุราชยังไม่ให้เธอ

“อ้อม...”

เสียงแหบพร่าเรียกคนที่นอนตาค้างอีกครั้ง ก่อนจะมองสบลงไปในตาคู่สวยที่ตอนนี้มีน้ำตาไหลทะลักออกมาจนเต็มสองตา

“อ้อม... ถ้ารู้สึกตัวแล้วช่วยตอบหน่อย”

ถามด้วยความห่วงใย ธนากรยอมรับว่าตกใจไม่น้อยที่เห็นเธอตัดสินใจทำแบบนั้น ตอนนี้เขาอยู่กลางทะเล และน้ำก็ไม่มีกิ่งก้านให้เกาะ ไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่อารดาจะทำแบบนี้ ถ้าไม่ใช่ยอมตายเพื่อหนีเขา

“มาช่วยฉันทำไม!” อารดาเค้นเสียงรอดไรฟันถามออกไป       ก่อนจะเบือนหน้าหนี เมื่อบังเอิญเห็นความห่วงใยในแววตาคู่นั้น

“ถ้าผมไม่สั่งให้ตาย คุณก็ตายไม่ได้”

“กรี๊ดดดด! ฉันเกลียดแก เกลียด ๆ ๆ ๆ ได้ยินไหมว่าเกลียด!”

อารดากรีดร้อง ก่อนจะลงมือทำร้ายตัวเอง มือบางจิกทึ้งไปตามเส้นผม ก่อนจะกรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง

“กรี๊ดดด!”

“หยุดนะอ้อม! บอกว่าให้หยุด!”

ธนากรเองก็ตกใจกับการกระทำของหญิงสาวไม่น้อย เขาไม่รู้ว่าเธอเป็นอะไร แล้วมีโรคประจำตัวอะไรหรือเปล่า เพราะสิ่งที่เขาเห็น     เธอก็เป็นแค่ผู้หญิงที่กร้านโลกคนหนึ่ง

“อยากให้ฉันตายไม่ใช่เหรอ แล้วช่วยทำไม มาช่วยทำไม!”

ร่างสูงตรงเข้ากอดคนร่างบาง เมื่อเห็นว่าเธอเริ่มควบคุมตัวเองไม่อยู่

“หยุดนะอารดา ถ้าคุณยังเป็นแบบนี้ ผมจะจับคุณมัดไว้กับ     เสาเรือ”

“เอาสิ เอาเลย จะเอาฉันไปขึ้นช้างลงม้าที่ไหนก็เชิญ ฉันไม่กลัว!”

อารดาท้าทาย นาทีนี้เธอไม่กลัวอะไรอีกแล้ว ถ้าลองเขาพาเธอมาแบบนี้ อนาคตเธอก็คงไม่ต่างอะไรกับตายทั้งเป็น มือบางยังทุบตี    ไปบนอกกว้าง พยายามกลั้นน้ำตา เธอไม่ได้ร้องเพราะกลัว แต่ที่ร้องเพราะโมโหที่ทำอะไรไม่ได้ แม้แต่ความตายเธอยังไม่มีสิทธิ์เลือกใช่ไหม

“อย่ามาท้านะ!”

ธนากรตอบกลับ ก่อนจะคิดทบทวน เขาจะจัดการกับเธอยังไงดี เพราะดูแล้วเธอไม่ใช่คนหัวอ่อน ไม่ใช่คนที่จะยอมให้เขาขู่ง่าย ๆ แล้วที่สำคัญ เขาก็ไม่ใช่คนใจร้ายอะไร ที่พาเธอมาที่นี่ก็แค่ต้องการเอามา    ดัดนิสัย และที่ทำให้เขาโมโหตัวเองก็คือภาพที่ชะอำคืนนั้น มันยังตามหลอกหลอนเขา ความหอมหวานที่ได้จากเธอ มันยังติดอยู่ในใจและพอมันถูกท้าทาย ธนากรก็ไม่ลังเลที่จะพาเธอมาด้วย ถึงแม้จะรู้ถึงปัญหาที่จะตามมา แต่ถ้าให้เลือกอีกครั้งเขาก็ทำ

“ลุกขึ้นมาเปลี่ยนเสื้อผ้า”

“ไม่! อย่ามายุ่งกับฉัน” พูดพร้อมกับผลักร่างสูงให้ออกห่าง      ก่อนจะขยับหนี

“ตามใจ”

ธนากรพูดพร้อมกับลุกขึ้น อยากอยู่แบบนี้ก็ตามใจ อารดาเป็นคนดื้อ ข้อนี้เขารู้ดี ร่างสูงเดินออกไปแล้ว ทิ้งให้เธอนั่งร้องไห้อยู่แบบนั้น มือบางกำเข้าหากันแน่น ก่อนจะกรีดร้องอีกครั้ง

“ฉันเกลียดแก ได้ยินไหมว่าฉันเกลียดแก กรี๊ดดด!”

ร่างสูงยังยืนนิ่ง เมื่อคนงานยื่นน้ำดื่มมาให้

“จะไหวเหรอนายหัว แลเธอพยศแท้”

“มาถึงขนาดนี้แล้วนี่ จะทำอะไรได้” ธนากรตอบกลับ แต่เหมือนพูดกับตัวเองซะมากกว่า

“ชื่อเสียงพ่อเธอไม่ธรรมดาเลยนะครับ ผมเกรงว่า...”

“ช่างเถอะ อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด”

สิ้นเสียงเจ้านาย ลุงพงษ์ก็เดินแยกไป เขาอยู่กับธนากรมาตั้งแต่เด็ก ๆ มีหรือจะไม่รู้ว่านายหัวคิดอะไรอยู่ ไหนว่าขึ้นกรุงเทพฯ ไปหา    คนรัก แล้วทำไมถึงได้พาเธอคนนี้กลับมา แล้วจากที่ได้ยินคนทั้งสองทะเลาะกัน ผัว ๆ เมีย ๆ ก็พอจะเดาได้ว่าสองคนนี้น่าจะมีอะไรกันแล้ว

“รักเขาชอบเขาแล้วทำไมไม่บอกดี ๆ เฮ้อ... เมียสามแล้วนะ   นายหัว!” ลุงพงษ์ส่ายหัวให้กับความปากหนักของเจ้านายหนุ่ม ก่อนจะกลับไปทำหน้าที่ของตัวเอง

“อารดา... ผมจะทำยังไงกับคุณดี”

ธนากรพูดกับตัวเอง เมื่อยังคิดไม่ออกว่าจะทำยังไงกับคนที่เอาแต่กรีดร้อง จะให้หันเรือกลับไปส่งฝั่งก็สายไปเสียแล้ว เพราะหัวใจเขาคงไม่ยอม

บทก่อนหน้า
บทถัดไป